2. เครื่องมือเครื่องใช้ของมนุษย์สมัยก่อนประวัติศาสตร์ ส่วนใหญ่ทำด้วยหิน แต่มีความประณีตมากขึ้นที่เรียกว่า “ยุคหินขัด” หมายถึงข้อใด
   ก. ยุคหินเก่า
   ข. ยุคหินกลาง
   ค. ยุคหินใหม่
   ง. ยุคสำริด

3. ความหมายของศิลปะแบบนีโอ คลาสสิก (Neo-Classicism) ที่เกิดในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 19 คือข้อใด
   ก. ให้ความสำคัญทางด้านจินตนาการและอารมณ์มากกว่าเหตุผล
   ข. เน้นการแสดงออกอย่างเป็นอิสระไร้กฎเกณฑ์ของศิลปิน
   ค. ยึดรูปแบบคลาสสิกของกรีกและโรมัน แต่เน้นความสำคัญของเหตุผล
   ง. เป็นศิลปะที่เน้นประโยชน์ใช้สอย สอดคล้องกับความเจริญก้าวหน้าทางเศรษฐกิจและสังคม

4. ดินแดนเมโสโปเตเมีย (ประเทศอิรักปัจจุบัน) มีหลักฐานทางศิลปวัฒนธรรมของชนชาติสุเมเรียนข้อใดที่ปรากฏให้เห็นถึงปัจจุบัน
   ก. การสร้างวิหารซิกกูแรต
   ข. การสร้างสวนลอยบาบิโลน
   ค. การประดิษฐ์ตัวอักษรเฮียโรกลิฟฟิก
   ง. การจัดระบบการเมืองการปกครองแบบกระจายอำนาจ

5. งานสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมของสมัยกลางข้อใด มีลักษณะผสมผสานระหว่าง ศิลปะกรีก-โรมัน กับศิลปะตะวันออก
   ก. ศิลปะโรมาเนสก์
   ข. ศิลปะโกธิก
   ค. ศิลปะไบแซนไทน์
   ง. ศิลปะเรอเนสซองส์

6. ความเจริญทางด้านอารยธรรมของอียิปต์โบราณข้อใด กระตุ้นให้ชาวโลกในปัจจุบันเกิดความสนใจอยากรู้อยากเห็นเรื่องราวของชาวอียิปต์โบราณมากที่สุด
   ก. วรรณกรรมเรื่อง “คัมภีร์ของผู้วายชนม์”
   ข. การประดิษฐ์ตัวอักษรบนกระดาษปาปิรัส
   ค. งานจิตรกรรมและประติมากรรมที่สง่างาม
   ง. การสร้างพีระมิดและมัมมี่

7. งานสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมโรมัน มีลักษณะเด่นเฉพาะตัวอย่างไร ที่ทำให้ชาวโรมันได้รับยกย่องว่าเป็นนักปฏิบัติที่มีความสามารถ
   ก. การประดิษฐ์คิดค้นสิ่งแปลกๆใหม่ๆ โดยไม่ยอมรับอิทธิพลทางศิลปะของชนชาติใด
   ข. การรับแนวทางศิลปะของกรีกเป็นแบบฉบับอย่างสมบูรณ์ และถ่ายทอดมายังโลกปัจจุบันอย่างต่อเนื่อง
   ค. การนำศิลปวัฒนธรรมกรีกมาผสมผสานให้เข้ากับของเดิมของตนและเน้นการนำไปใช้ประโยชน์
   ง. การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะควบคู่ไปกับการขยายอำนาจทางการเมืองในดินแดนจักรวรรดิของตน

8. รูปแบบของงานสถาปัตยกรรมข้อใด เป็นลักษณะเฉพาะของศิลปะแบบโรมัน
   ก. การใช้เสาที่มีลวดลายสวยงามแบบดอริก(Doric) และไอโอนิก(Ionic)
   ข. การสร้างเทววิหารรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าและมีเสาแบบโครินเทียน (Corinthian)
   ค. การใช้รูปแบบหลังคาครึ่งวงกลมหรือรูปโดม(Dome) และซุ้มประตูรูปโค้ง(Arch)
   ง. การสร้างอาคารอเนกประสงค์เป็นห้องโถงขนาดใหญ่ด้วยหินอ่อน

9. ศิลปวัฒนธรรมกรีกสมัยเฮลเลนิก (Hellenic) ในแขนงต่าง ๆ มีลักษณะเด่นอย่างไร
   ก. มีลักษณะเป็นศิลปะกรีกอย่างแท้จริง เรียบง่ายและได้สัดส่วน
   ข. มีลักษณะผสมผสานระหว่างศิลปะตะวันตกและตะวันออก
   ค. เน้นความแข็งแรงใหญ่โต หรูหรา และวิจิตรพิสดาร
   ง. เน้นประโยชน์ใช้สอยมากกว่าการประดับประดา

10. ลักษณะงานประติมากรรมที่ปรากฏเด่นชัดแสดงถึงลักษณะมนุษยนิยมของกรีกโบราณคือข้อใด
   ก. การสร้างเทวรูปขนาดใหญ่เหมือนจริง แสดงถึงความน่าเกรงขาม
   ข. การปั้นรูปบุคคลสำคัญและสร้างเป็นอนุสรณ์สถาน
   ค. การให้ความสำคัญต่ออิริยาบถและลักษณะทางธรรมชาติของมนุษย์
   ง. การแสดงความงดงามในสรีระร่างกายและสัดส่วนของมนุษย์

11. ลักษณะของประมวลกฎหมายของพระเจ้าฮัมมูราบี ที่นำมาใช้ในอาณาจักรบาบิโลเนีย มีหลักการสำคัญอย่างไร
   ก. ให้ประชาชนปกครองกันเอง
   ข. ให้หลักตาต่อตา ฟันต่อฟัน
   ค. มีข้อห้าม แต่ไม่มีบทลงโทษ
   ง. มุ่งรักษาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก

12. ศิลปะแบบสัจนิยม (Realism) แสดงออกในงานวรรณกรรมมากที่สุด ถ้าท่านอ่านนวนิยายเรื่อง “โอลิเวอร์ ทวิสต์” ของชาร์ลส์ ดิกเกนส์ หรือ “แม่” ของแมกซิม กอร์กี จะพบว่าวรรณกรรม ทั้งสองเรื่องนี้ ผู้เขียนต้องการสะท้อนถึงปัญหาสังคมในขณะนั้นอย่างไร
   ก. อิทธิพลของนักการเมืองและพ่อค้า
   ข. การกดขี่แรงงานภาคเกษตรกรรม
   ค. ความเลวร้ายของสังคมอุตสาหกรรม
   ง. ความเสื่อมโทรมของคริสต์ศาสนา

13. ในช่วงที่ยุโรปเข้าสู่ “สมัยกลาง” ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 5-16 สิ่งใดที่มีอิทธิพลต่อสภาพสังคมของสมัยกลางมากที่สุด และมีผลต่อการสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนในสมัยนั้นเป็นอย่างยิ่ง
   ก. คริสตจักรและระบบฟิวดัล
   ข. สำนักสันตะปาปาและคริสต์ศาสนา
   ค. อิทธิพลของคริสต์ศาสนาและลัทธิอัศวิน
   ง. อิทธิพลของศิลปะกรีก-โรมันและคริสต์ศาสนา

14. ลักษณะเด่นของงานจิตรกรรมในสมัยเรอเนสซองส์ ดังปรากฏในผลงานของ ลีโอนาร์โด ดาวินชี ชาวอิตาลี ชื่อภาพ Mona Lisa และ The Last Supper มีลักษณะตรงกับข้อใด
   ก. การเขียนภาพที่เน้นเรื่องเส้นมากกว่าการใช้สี
   ข. ใช้สีสดฉูดฉาดตัดกันอย่างรุนแรงและแสดงออกในอารมณ์
   ค. มีลักษณะเหมือนจริง(Perspective) ใช้แสง สี เงาอย่างกลมกลืน
   ง. มีลักษณะเป็นนามธรรม(Abstract) เน้นรูปทรงให้ผิดเพี้ยนไปจากความจริง

15. ในช่วงตอนปลายของคริสต์ศตวรรษที่ 18 ถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 เป็นช่วงที่ยุโรปก้าวเข้าสู่ยุคของเหตุผล(Age of Reason) หรือสมัยแห่งภูมิธรรม (The Enlightement) เป็นผลให้งานศิลปะในยุคนี้แสดงออกถึงความมีเหตุผลมากที่สุด เรียกว่าศิลปะแบบใด
   ก. ศิลปะแบบนีโอ-คลาสสิค (Neo-Classicism)
   ข. ศิลปะแบบโรแมนติก (Romanticism)
   ค. ศิลปะแบบสัจนิยม (Realism)
   ง. ศิลปะแบบอิมเพรสชันนิสม์ (Impressionism)

คะแนนที่ได้ =
คำตอบที่ถูกต้อง