สมัยก่อนประวัติศาสตร์ เป็นสมัยที่มนุษย์ยังไม่รู้จักการประดิษฐ์ตัวอักษร
การศึกษาค้นคว้าจะใช้หลักฐานโบราณคดี เช่น เครื่องมือเครื่องใช้
เครื่องประดับ ภาพวาดตามฝาผนังถ้ำ ฯลฯ สมัยก่อนประวัติศาสตร์จะแบ่งออกได้เป็น
2 ยุค ได้แก่ ยุคหินและยุคโลหะ โดยแบ่งตามระดับความเจริญก้าวหน้าในการประดิษฐ์เครื่องมือเครื่องใช้ต่างๆ
1. ยุคหิน (Ston Age) ยุคหินแบ่งออกเป็นยุคย่อย 3 ยุค คือ ยุคหินเก่า ยุคหินกลาง ยุคหินใหม่
1.1. ยุคหินเก่า มีอายุประมาณ 2,000,000 - 8,000
ปี ก่อนคริสตกาล
1.1.1 มนุษย์ในยุคหินเก่าต้องพึ่งพาธรรมชาติมาก
ดำรงชีวิตด้วยการเก็บหาผลไม้และล่าสัตว์ป่าเป็นอาหาร จอยู่อาศัยตามถ้ำ
และรู้จักใช้ไฟหุงต้มอาหาร
1.1.2 ผลงานด้านศิลปวัฒนธรรม ส่วนใหญ่เป็นภาพจิตรกรรมฝาผนังถ้ำ
เป็นรูปสัตว์ป่า ผลงานที่ดีที่สุดแสดงถึงวัฒนธรรมขั้นสูงของมนุษย์ยุคหินเก่า
คือ ภาพวาดรูปสัตว์บนฝาผนังถ้ำ อัตตามิรา (Altamira) ในประเทศสเปน
1.2. ยุคหินกลาง มีอายุประมาณ 8,000 ปี ก่อนคริสตกาล
1.2.1 มนุษย์ยุคหินกลางรู้จักการตั้งถิ่นฐานภายนอกถ้ำ
เครื่องมือเครื่องใช้ทำด้วยหินแต่มีความประณีตมากขึ้น รู้จักทำศรธนูล่าสัตว์
ทำขวานหิน ทำการเพาะปลูก จับปลา และปั้นหม้อไหด้วยดินเหนียวตากแห้ง
1.2.2 ผลงานด้านศิลปวัฒนธรรม มีภาพวาดตามชะง่อนหินผา ในเขตชายฝั่งตะวันออกของประเทศสเปน แต่จะมีรูปมนุษย์และรูปสัตว์ปรากฎในภาพร่วมกัน
สันนิษฐานว่ามนุษย์ในยุคหินกลางคงมีความเชื่อเรื่องวิญญาณ
 |
|
|
การดำรงชีวิตของมนุษย์ยุคหินกลาง |
1.3. ยุคหินใหม่ มีอายุประมาณ 4,000 ปี ก่อนคริสตกาล
1.3.1 มนุษย์ยุคหินใหม่ รู้จักผลิตอาหารได้เอง
รู้จักการทอผ้า ใช้เครื่องนุ่งห่มและทำเครื่องปั้นดินเผา เครื่องมือเครื่องใช้ยังทำด้วยหิน
เขาสัตว์ หรือกระดูกสัตว์ แต่พัฒนาฝีมือประณีตขึ้น จึงมักเรียกยุคนี้ว่า
"ยุคหินขัด" ตลอดจนรู้จักการนำสุนัขมาเลี้ยงไว้เป็นเพื่อน
1.3.2 การตั้งถิ่นฐานเป็นชุมชนและพัฒนาเป็นสังคมเกษตรกรรม
มนุษย์ในยุคหินใหม่หยุดการเร่ร่อนติดตามฝูงสัตว์ จะตั้งถิ่นฐานถาวรเป็นกระท่อมดินเหนียวหรือไม้อย่างง่ายๆ
รวมตัวเป็นหมู่บ้าน มีผู้นำ หัวหน้าเผ่า และประกอบอาชีพเกษตรกรรม
มีการค้า มีช่างฝีมือ ฯลฯ มีความเจริญมากขึ้น
1.3.3 ผลงานด้านศิลปวัฒนธรรม มีเครื่องประดับตกแต่ง
เครื่องใช้ประเภทเครื่องปั้นดินเผาและอนุสาวรีย์หิน ซึ่งเป็นงานสถาปัตยกรรมพื้นฐานของมนุษย์
ที่มีชื่อเสียงมาก คือ "สโตนเฮนจ์" (Stonehenge) ในอังกฤษ
สันสวงอาทิตย์
2. ยุคโลหะ(Metal Age) แบ่งออกเป็น 2 ยุคย่อย คือ ยุคสำริดและยุคเหล็ก
2.1 ยุคสำริด (Bronze Age) ยุคสำริดเริ่มต้นในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลกเมื่อประมาณ 4,000 2,700 ปีมาแล้วสำริดเป็นโลหะผสมระหว่างทองแดงกับดีบุก กรรมวิธีการทำสำริดค่อนข้างยุ่งยาก ตั้งแต่การหาแหล่งแร่ การเตรียม การถลุงแร่ และการผสมแร่ในเบ้าหลอม จากนั้นจึงเป็นการขึ้นรูปทำเครื่องมือเครื่องใช้ด้วยการตีหรือการหล่อในแม่พิมพ์หินทรายหรือแม่พิมพ์ดินเผา
เครื่องมือเครื่องใช้ในยุคสำริดที่พบตามแหล่งต่าง ๆ ในภูมิภาคต่าง ๆ ของโลก นอกจากทำด้วยสำริดแล้ว ยังพบเครื่องมือเครื่องใช้ทำจากดินเผา หิน และแร่ ในบางแหล่งมีการใช้สำริดต่อเนื่องมาจนถึงยุคเหล็ก เครื่องมือเครื่องใช้ที่ทำจากสำริดมีขวาน หอก ภาชนะ กำไล ตุ้มหู ลูกปัด ฯลฯ
ในยุคนี้ความเป็นอยู่ของมนุษย์เปลี่ยนแปลงไปมากทั้งด้านการเมืองและสังคม ชุมชนเกษตรกรรมขยายตัวจนกลายเป็นชุมชนเมือง จึงมีการจัดแบ่งความสัมพันธ์ตามความสามารถ เช่น กลุ่มอาชีพ มีการจัดระเบียบสังคมเป็นกลุ่มชนชั้นต่าง ๆ ซึ่งเอื้ออำนวยต่อการผลิต อันนำไปสู่ความมั่นคงปลอดภัยกว่าเดิม และมีความสะดวกสบายมากขึ้น นำไปสู่พัฒนาการทางสังคมสู่ความเป็นรัฐในเวลาต่อมา
2.2 ยุคเหล็ก (Iron) ประมาณ 2,700 2,000 ปีมาแล้ว ช่วงเวลานี้เริ่มต้นการพัฒนาการทางด้านเทคโนโลยีการผลิตโลหะของมนุษย์ที่สามารถหลอมโลหะประเภทเหล็กขึ้นมาทำเครื่องมือเครื่องใช้ได้ เหล็กมีความแข็งแกร่งคงทนกว่าสำริดมาก การผลิตเหล็กต้องใช้อุณหภูมิสูงและมีกรรมวิธีที่ยุ่งยาก
สังคมที่สามารถพัฒนาการผลิตเหล็กจะสามารถพัฒนาสู่ความเป็นรัฐ เพราะการผลิตเหล็กทำให้สังคมสามารถผลิตอาวุธได้ง่ายและแข็งแกร่งขึ้น จนสามารถขยายกองทัพได้ และมีเครื่องมือที่เหมาะสมต่อการทำการเกษตรที่มีความคงทนกว่า
แหล่งอารยธรรมแห่งแรกที่สามารถผลิตเหล็กได้ คือ อารยธรรมเมโสโปเตเมีย เมื่อประมาณ 3,200 ปีมาแล้ว
ยุคเหล็กมีความแตกต่างจากยุคสำริดหลายประการ คือ การพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตเหล็กทำให้เกิดการเพิ่มผลผลิต การผลิตเหล็กทำให้กองทัพมีอาวุธที่แข็งแกร่งนำไปสู่พัฒนาการทางสังคมจนกลายเป็นรัฐที่มีกำลังทหารที่เข็มแข็ง เข้ายึดครองสังคมอื่น ๆ ขยายเป็นอาณาจักรในเวลาต่อมา
|