ความหมายของศิลปวัฒนธรรมแบบนีโอ-คลาสสิก
ศิลปะแบบนีโอคลาสสิก (Neo-Classicism)
เกิดขึ้นในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ถึงกลางคริสต์ศตวรรษที่ 19 งานสร้างสรรค์ยังคงยึดรูปแบบคลาสสิกของกรีก-โรมัน
แต่ให้ความสำคัญต่อเหตุผลมากที่สุด เนื่องจากในช่วงเวลาอยู่ในยุคของเหตุผล
(Age of Reason) หรือสมัยแห่งภูมิปัญญา (The Enlightenment) มนุษย์มีความเชื่อมั่นในเหตุผล
เชื่อความสามารถและสติปัญญาของตน อันเป็นผลมาจากการปฏิบัติทางวิทยาศาสตร์ในคริสต์ศตวรรษที่
17 เป็นต้นมา
งานสร้างสรรค์ศิลปวัฒนธรรมแบบนีโอ-คลาสสิก
1. งานสถาปัตยกรรม มีความเจริญรุ่งเรืองในฝรั่งเศส
ได้รับอิทธิพลศิลปะกรีก-โรมัน อยู่มาก เช่น ประตูชัยที่กรุงปารีส
และพระราชวังเปอติต์ ตริอานอง (Pettit Trianon) ที่มีความงดงามหรูหราของฝรั่งเศส
2. งานด้านจิตรกรรมและประติมากรรม
มีลักษระเด่นคือ เน้นเรื่องเส้นมากกว่าการใช้สี มีความเรียบง่าย
แต่สง่างามตามแบบศิลปะกรีก-โรมัน ผลงานมีลักษณะคล้ายคลึงกับของกรีกโบราณ
โดยเฉพาะการแต่งกาย เช่น รูปปั้นของพระเยซูที่แต่งกายแบบกรีกโบราณ
เป็นต้น
จิตรกรที่มีชื่อเสียงแห่งยุค คือ ฟรานซิสโก โกยา (Francisco
Goya) ชาวสเปน เขียนภาพแสดงความเลวร้ายของชนชั้นปกครองสเปน และความเสื่อมโทรมของศาสนจักรและสังคมในสมัยนั้น
3. งานวรรณกรรม ยังคงมีอิทธิพลของศิลปะกรีก-โรมันแฝงอยู่
กล่าวคือ ยึดมั่นในระเบียบแบบแผนและกฎเกณฑ์เดิม แต่เน้นความสำคัญของเหตุผลและความคิด
มิใช่อารมณ์อย่างเดียว มีการเขียนวิพากษ์วิจารณ์และเสียดสีสังคมมากขึ้น
สะท้อนถึงความต้องการที่จะปรับปรุงสังคมให้ดีงามโดยสันติวิธี
ภาษาที่ใช้มีความไพเราะสละสลวย แต่ในช่วงตอนปลายของคริสต์วรรษที่
18 งานวรรณกรรมค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไป การยึดมั่นในระเบียบกฎเกณฑ์ของวรรณกรรมคลาสสิกลดน้อยลง
แต่ให้ความสำคัญแก่เสรีภาพในการเขียน โดยใช้รูปแบบที่เป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
เช่น การใช้ภาษาประจำชาติของผู้ประพันธ์ เป็นต้น
3.1
กวีนิพนธ์ ที่มีชื่อเสียงมากเป็นผลงานของอเล็กซานเดอร์โป๊ป (AlexanderPope)
กวีชาวอังกฤษ เรื่อง "ความเรียงเรื่องมนุษย์" (Ah
Essay on Man) เขียนตามรูปแบบและกฎเกณฑ์สมัยคลาสสิกอย่างเคร่งครัด
ใช้ถ้อยคำคมคาย เสียดสีมนุษย์และสังคมอย่างตรงไปตรงมา
3.2
งานร้อยแก้ว มีลักษณะมุ่งวิพากษ์วิจารณ์เสียดสีสภาพสังคมและการใช้อำนาจที่ไม่เป็นธรรมของฝ่ายคริสต์จักร
ดังเห็นได้จากผลงานของวอลแตร์ (Voltaire) นักปรัชญาการเมืองชาวฝรั่งเศส
และโจนาธาน สวีปท์ (Jonathan Swift) นักเขียนชาวอังกฤษ ที่เขียนเรื่อง
"การผจญภัยของกัลลิเวอร์" (Gulliver's Travels) ซึ่งมุ่งถากถางสังคมและการปกครองของอังกฤษในขณะนั้น
ตลอดจนแดเนียล เดอโฟ (Daniel Defoe) นักเขียนชาวอังกฤษ ซึ่งได้รับยกย่องให้เป็นต้นแบบของงานเขียนวรรณกรรมประเภทนวนิยาย
(Novel) ของสมัยปัจจุบันผลงานที่เด่นที่สุด คือ "โรบินสัน
ครูโซ" (Robinson Crosoe)
4. นาฎกรรม บทละครนีโอ คลาสสิก
ได้รับอิทธิพลจากบทละครกรีกที่เน้นความสมเหตุสมผลของเรื่อง และมุ่งสอนศีลธรรมแก่ผู้ชมควบคู่กับความบันเทิง
มีทั้งบทละครประเภทโศกนาฎกรรมและสุขนาฎกรรม
5. ดนตรี อิทธิพลของแนวความคิดในสมัยแห่งเหตุผลที่เชื่อมั่นในภูมิปัญญาและความสามารถของมนุษย์
เปิดโอกาสให้นักดนตรี นักร้องและนักแต่งเพลง แสดงความสามารถส่วนตัวออกมาได้อย่างเต็มที่
เช่น การแสดงดนตรีเดี่ยว และการร้องเดี่ยวให้เพลงโอเปร่า เป็นต้น
การประพันธ์เพลงจะยึดหลักเกณฑ์โดยเคร่งครัด นักดนตรีที่สำคัญได้แก่
โมสาร์ท (Mozart) และ บีโธเฟน (Beethoven)
 |
 |
 |
ฟรานซิสโก โกยา (Francisco
Goya) |
"พระราชวงศ์พระเจ้าชาลส์ที่ 4"
โดย ฟรานซิสโก โกยา |
"ใต้ร่มเงาแดด" โดย ฟรานซิสโก โกยา |
 |
 |
 |
 |
อเล็กซานเดอร์โป๊ป (AlexanderPope) |
วอลแตร์ (Voltaire) |
โจนาธาน สวีปท์
(Jonathan Swift) |
แดเนียล เดอโฟ (Daniel Defoe) |
 |
 |
โมสาร์ท (Mozart)
|
บีโธเฟน (Beethoven) |
|